วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556

อธิบาย

<?php
$sql ="select * from student order by id asc "; // กำหนดตัวแปร$sql ให้เลือกทั้งหมดของตาราง และเรียงจากน้อยไปมาก
$query=mysql_query($sql) or die(mysql_error()); //กำหนดตัวแปร$queryให้ประมวลตัวแปร$queryและตรวจว่าถูกหรือไม่
$num=mysql_num_rows($query); //กำหนดตัวแปร $numโดยมาจากการนับจำนวนrecordของตัวแปร$query
echo $num;//แสดงผลตัวแปร num
?>

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Code

<body>
<?php
$score=77;
if($score < 50){
echo 'grade 0';
}else if ($score < 56){
echo 'grade 1';
}else if ($score < 60){
echo 'grade 1.5';
}else if ($score < 65){
echo 'grade 2';
}else if ($score < 70){
echo 'grade 2.5';
}else if ($score < 75){
echo 'grade 3';
}else if ($score < 80){
echo 'grade 3.5';
}else{echo 'grade 4';}


?>
</body>
</html>

วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556

โตเกียว

โตเกียว (ญี่ปุ่น: 東京都) หรือ กรุงโตเกียว เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น คนไทยส่วนใหญ่จะเลือกไปเรียนต่อโตเกียวไม่ว่าจะเป็นภาษาญี่ปุ่น และหลักสูตรระดับปริญญา จึงไม่น่าแปลกเลยที่โตเกียวจะกลายเป็น 1 ในเมืองแห่งการศึกษาของประเทศญี่ปุ่น
ข้อมูลทั่วไป
โตเกียวมีระบบการปกครองแบบพิเศษซึ่งรวมการปกครองในรูปแบบจังหวัดและเมืองไว้ด้วยกัน และเป็นเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก โตเกียวตั้งอยู่บริเวณภาคคันโตของญี่ปุ่น คำว่า “โตเกียว” หมายถึง “นครหลวงตะวันออก” ในพื้นที่โตเกียวยังเป็นที่ตั้งของพระราชวังอิมพีเรียล
ภูมิอากาศ มี 4 ฤดู
  • ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) อุณหภูมิเฉลี่ย (ในกรุงโตเกียว) 14.4 องศาเซลเซียส
  • ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) อุณหภูมิเฉลี่ย 25.4 องศาเซลเซียส มีฝนตกชุกช่วงต้นฤดู
  • ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) อุณหภูมิเฉลี่ย 18.2 องศาเซลเซียส มีพายุไต้ฝุ่นมากในเดือนกันยายน
  • ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) อุณหภูมิเฉลี่ย 5.8 องศาเซลเซียส
โตเกียวถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางทางการบริหาร, การเงิน, การศึกษา และวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น เป็น 1 ในเมืองสำคัญในแง่ของอำนาจและผลกระทบต่อเศรษฐกิจของโลก
ถึงแม้ว่าโตเกียวจะเป็นเมืองสำคัญทางการศึกษา แต่ก็มีข้อจำกัดสำหรับนักเรียนต่างชาตินั่นคือค่าครองชีพที่สูงในแต่ละปี แต่อย่างไรก็ตามนักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่ก็ยังนิยมมาเรียนต่อในโตเกียว เนื่องจากมีโรงเรียนสอนภาษา หรือมหาวิทยาลัยตั้งอยู่อย่างมากมาย และเมืองโตเกียวยังเป็นเมืองใหญ่ที่มีประชาชนอยู่อย่างหลากหลาย ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนต่างชาติเข้าใจวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของคนญี่ปุ่นได้อย่างหลากหลายอีกด้วย

สถาบันอุดมศึกษาที่มีชื่อเสียงในโตเกียว
- University of Tokyo
- Tokyo Institute of Technology
- Tokyo Metropolitan University
- Tokyo University of Science
สำหรับสถาบันภาษาในโตเกียวนั้นมีมากกว่า 150 โรงเรียน ซึ่งมีทั้งอยู่ในใจกลางโตเกียว และอยู่ภายนอกเมืองโตเกียว ซึ่งการเลือกโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นในโตเกียวนั้น ผู้สนใจควรดูจากจุดประสงค์ในการไปเรียนของตนเอง, ความเหมาะสมของสถานที่ และราคา รวมถึงความต้องการอื่น ๆ ของการไปเรียน

ประโยคที่ใช้บ่อยในร้านอาหารญี่ปุ่น

อยากสั่งเมนูนี้Kore o kudasai. // โคะเระ โอะ คะดะไซこれをください。
ขอ อุนิ ซูชิ ด้วย ค่ะ/ครับUni o nigitte kudasai. // อุนิ โอะ นิกิเตะ คุดะไซうにをにぎってください。
ขอปลาดิบที่ดีที่สุดของวันนี้Sashimi o omakase de onegai shimasu. // ซะชิมิ โอะ โอะมะกะเซะ เดะ โอะเนะไกชิมัส刺身をおまかせでお願いします。
ขอปลาดิบ … (ไม่มีข้าว) 1 ที่… o sashimi ni shite kudasai. // … โอะ ซะชิมิ นิ ชิเตะ คุดะไซ…. を刺身にしてください。
ขอชา หน่อย ค่ะ/ครับAgari o kudasai. // อะกะริ โอะ คุดะไซあがりをください。
ขอสั่งแค่นี้ก่อน ขอบคุณ ค่ะ/ครับMo kekko desu. // โม เคคโคะ เดสもう結構です。
กรุณา คิดเงินด้วยOaiso o onegai shimasu. // โอะไอโซะ โอะ เนไก ชิมัสおあいそをお願いします。








ประเภทของซูชิ



ประเภทของซูชิ

 Nigiri-zushi (นิกิริ ซูชิ) เป็นข้าวปั้นที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด ซึ่งประกอบด้วยปลา อาหารทะเล ผัก หรือแม้แต่เนื้อสัต  ว์ต่างๆ วางบนชิ้นข้าวปั้นข้าวเท่านิ้วมือเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มักจะใส่วาซาบิเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ หากใช้ปลาวางบนหน้าข้าวปั้นมักจะใช้ปลาดิบ และหากเป็นอาหารจำพวกหอยอาจจะปรุงสุก

ถ้าใช้ไข่ปลาชนิดต่างๆวางบนหน้าข้าวปั้น จะใช้แผ่นสาหร่ายแห้ง (โนริสาหร่าย) ห่อตัวข้าวปั้นไว้อีกทีเพื่อไม่ให้ไข่ปลา  หกออกมา เมนูนี้มีชื่อว่า gunkan-maki แปลว่า ห่อเรือรบ  Nigiri-zushi เป็นเมนูท่องถิ่นของโตเกียว ซึ่งจะรู้จักในชื่อ Edomae-zushi คำว่า “Edo” เป็นชื่อที่ใช้เรียกเมือง ซึ่งหลังจากปี 1868 ได้เปลี่ยนเป็นชื่อโตเกียวในปัจจุบัน


Maki-zushi (มาคิ ซูชิ) มีขั้นตอนการทำด้วยการใช้แผ่นเสื่อไม่ไผ่ผืนเล็กๆช่วยในการบีบข้าวปั้นให้เกาะตัว มีไส้ตรงการเป็น ปลาทูน่า แตงกวา หรือส่วนผสมอื่นๆ และห่อตัวข้าวปั้นด้วยแผ่นสาหร่าย หลังจากนั้นหั่นเป็นเเว่นๆพอดีคำ

Futo-maki (ฟูโตะ มาคิ) ขั้นตอนการทำเหมือน มากิ ซูชิ เพียงแต่มีขนาดใหญ่กว่าและมีการใส่ไส้ที่หลากหลาย เช่นไข่ และผักดอง เป็นต้น

Temaki (เทมาคิ) มีความคล้ายคลึงกับ มาคิ ซูชิ แต่ว่าทำด้วยมือ เป็นรูปกรวย (คนไทยรู้จักในชื่อ แคลิฟอเนีย มาคิ) วิธีกินคือใช้มือหยิบกินได้เลย โดยกินคู่กับซอสถั่วเหลือง

Sashimi (ซาชิมิ) ปลาดิบแล่เป็นแผ่นบางๆ เสริฟเป็นเครื่องเคียงรับประทานกับเครื่องดื่ม
 Chirashi (ชิราชิ) ข้าวหน้าปลาดิบในถ้วยยักษ์ตกแต่งด้วยผักเพื่อความสวยงาม มักจะรวมอยู่ในเซ็ทเมนู ซึ่งราคานั้นกำหนดตามขนาด และประเภทของเครื่องปรุง

 Oshi-zushi (โอชิ ซูชิ) อาหารพื้นเมืองของจังหวัดโอซากา มีวิธีการทำคือ นำแผ่นปลาที่แล่แล้วมาวางซ้อนๆกันบนข้าวที่อัดอยู่ให้บล็อกไม้ไผ่สีเหลี่ยมผืนผ้า หลังจากนั้นนำออกมาจากบล็อกไม้ไผ่ และหั่นเป็นชิ่นเล็กพอดีคำ


ซูชิทั้งสามแบบเเรกนั้นสามารถสั่งแยกเป็นชิ้นๆ หรือสั่งรวมในเมนูเซ็ทก็ได้ ส่วน Sashimi และ chirashi-zushi มักจะทำสดๆไม่ได้ทำเตรียมไว้ขาย Oshi-zushi เป็นเมนูที่พบมากในแถบคันไซ (โอซากา และ เกียวโต)

การศึกษาในประเทศญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีมาตรฐานทางด้านการศึกษาในระดับสูง โดยระบบการศึกษาของประเทศได้รับต้นแบบมาจากระบบการศึกษาของหลาย ๆประเทศ อาทิเช่น ประเทศอังกฤษ, ฝรั่งเศส และอเมริกา โดยจะแบ่งระดับการศึกษาเป็น
- ระดับอนุบาล (Kindergarten / Yochien)- อายุต่ำกว่า 6 ปี
ถึงแม้ว่าการศึกษาในระดับอนุบาลจะไม่ใช่การศึกษาภาคบังคับ แต่การศึกษาในระดับนี้กลับมีจำนวนผู้เข้าเรียนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นั่นทำให้รัฐบาลตั้งเป้าหมายในการเพิ่มศักยภาพของการศึกษาระดับนี้มากขึ้น

- ระดับประถม (Elementary School / shogakkou)- 6-12 ปี
เริ่มตั้งแต่ผู้เรียนอายุ 6 ปี – 12 ปี ซึ่งการศึกษาในระดับนี้เป็นการศึกษาภาคบังคับสำหรับชาวญี่ปุ่น โดยโรงเรียนรัฐบาลจะมีการกำหนดยูนิฟอร์มให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และโรงเรียนส่วนใหญ่จะเป็นโรงเรียนของรัฐ มีเพียงแค่ร้อยละ 5 เท่านั้นที่เป็นโรงเรียนเอกชน

- ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (Lower Secondary School / chugakkou)- 12-15 ปี
เป็นระดับการศึกษาที่สำคัญต่อเด็กนักเรียน เพื่อเตรียมเข้าสู่การเรียนในระดับมัธยมปลาย เนื่องจากเด็กส่วนใหญ่จะใช้เวลาอยู่ในชมรม, กิจกรรม และการเรียนของโรงเรียนเป็นหลัก

- ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (Upper Secondary School / koutougakkou)- 15-18 ปี
การศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเป็นภาคการศึกษาไม่บังคับใน
ประเทศญี่ปุ่น แต่อย่างไรก็ตามร้อยละ 94 ของผู้เรียนที่จบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจะเข้าเรียนต่อ   โดยการเรียนในระดับนี้นั้นจะต้องมีการสอบเข้า เช่นเดียวกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในประเทศต่าง ๆ และนักเรียนที่จบจากโรงเรียนบางโรงเรียนจะสามารถเข้ามหาวิทยาลัยระดับประเทศได้โดยตรง อาทิเช่น University of Tokyo แต่สำหรับนักเรียนที่ไม่อยากเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ก็จะเข้าวิทยาลัยเทคนิคเช่นเดียวกับระบบการศึกษาในประเทศไทย
- ระดับมหาวิทยาลัย (University)- 18-20 หรือ 22 ปี
มหาวิทยาลัยใน
ประเทศญี่ปุ่นจะกำหนดหลักสูตรและระยะเวลา ดังนี้ ระดับปริญญาตรีจะใช้เวลาทั้งสิ้น 4 ปี, ระดับปริญญาโท 2 ปี และระดับปริญญาเอก 3 ปี
การเรียนในระดับมหาวิทยาลัยจะเริ่มภาคการศึกษาในเดือนเมษายนของแต่ละปี โดยจะแบ่งภาคการศึกษาเป็น ภาคการศึกษาที่ 1 (เดือนเมษายน-เดือนกันยายน) และภาคการศึกษาที่ 2 (เดือนกันยายน-เดือนมีนาคม) โดยระยะเวลาการรับสมัครโดยทั่วไปจะสิ้นสุดในเดือนกันยายนหรือเดือนตุลาคมสำหรับการสมัครเรียนในเดือนเมษายนของปีถัดไป

น้ำสลัดสไตล์ญี่ปุ่น

น้ำสลัดสไตล์ญี่ปุ่น ส่วนผสมสำหรับ 14 ที่เสริฟ •หอมสับ 1/2 ถ้วยตวง •น้ำมันถั่วลิสง 1/3 ถ้วยตวง •น้ำส้มสายชูหมักจากข้าว 1/3 ถ้วยตวง •น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ •ขิงสดสับ 2 ช้อนโต๊ะ •ผักชีสับ 2 ช้อนโต๊ะ •ซอสมะเชือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ •ซอสถั่วเหลือง 4 ช้อนชา •น้ำตาลทรายขาว 2 ช้อนชา •น้ำมะนาว 2 ช้อนชา •กระเทียมสับ 1/2 ช้อนชา •เกลือ 1/2 ช้อนชา •พริกไทยดำบด 1/4 ช้อนชา วิธีทำ นำส่วนผสมทุกอย่างตามข้างต้นใส่เครื่องปั่น จากนั้นปั่นจนกระทั่งส่วนผสมเข้ากันดี ก็จะได้น้ำสลัดสไตล์ญี่ปุ่น